La Belle - เธอไม่รักฉันเลย
บทวิจารณ์หนังเรื่องนี้ ผมเขียนไว้นานแล้ว บางทีเวลาดูหนัง ถ้าเรื่องไหนน่าสนใจ ผมก็จะไปหารายละเอียดเพิ่มเติมอาจเป็นจากนิตยสารหรือตามเว็บไซต์ที่มีการวิจารณ์เกี่ยวกับหนัง การดูหนังของผมก็มีทั้งดูแบบเพลินๆหรือดูเพื่อเก็บข้อมูลมาเขียนเพลง พอดูจบรู้สึกอยากเขียนอะไรซักอย่างเกี่ยวกับเรื่องที่พึ่งดู ก็เริ่มลงมือเขียน ความคิดต่างๆเป็นของผม แต่บางทีบางคำพูดบางถ้อยคำอาจได้รับอิทธิพลมาจากนักวิจารณ์ท่านอื่นที่ผมได้ติดตามงานแล้วอาจติดถ้อยคำหรือความเห็นมาในบทวิจารณ์ ก็ขออภัยท่านเจ้าของงานมา ณ ที่นี้ด้วย
ในบทวิจารณ์นี้อาจมีเฉลยรายละเอียดของหนัง หากท่านต้องการจะหาหนังเรื่องนี้มาดู ก็อย่าอ่านเลยนะครับ เดี๋ยวเวลาไปจริงๆ รายละเอียดบางอย่างรู้ก่อนแล้ว จะทำให้อรรถรสในการดูลดน้อยลงไป
หลายครั้งที่ผมเลือกดูหนังที่ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนั้นมาก่อนจากชื่อเรื่องที่ตั้งเป็นภาษาไทย เช่น เติมรสชาติให้เต็มคน(Eat Drink Man Woman) ขอเพียง 5 วันให้ฉันรู้หัวใจเธอ(Fly me to Polaris) ฯลฯ และกับหนังเกาหลีเรื่องนี้ก็เช่นกัน La Belle เธอ เขา และรักเรา ทำให้เดาได้ว่าเรื่องนี้พอจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง
ความหมายของความรักคืออะไรล่ะ ความรักคือการให้ ความรักคือต้นไม้ที่จะเจริญงอกงามเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับการเอาใจใส่ดูแลของคนที่ปลูก ไม่ว่าใครจะนิยามไว้ว่าอย่างไรก็ตาม แต่ทำไมคนที่ผิดหวังจากความรักจึงเลือกที่จะทำร้ายตัวเอง หรือทำร้ายคนที่ทิ้งไป มองดูแล้วเหมือนว่าความรักมีทั้งด้านที่มีความสุขและความทุกข์
เหมือนกับความรักของนักเขียนหนุ่ม ในคืนที่เขาเปิดประตูรับหญิงสาวแปลกหน้าเข้ามาในบ้าน นับตั้งแต่นั้นมาเธอก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขา สายตาของเธอทำให้เขาอ่อนไหว ท่าทางของเธอทำให้เขาสงสัย เรือนร่างของเธอสัมผัสของเธอมันยากเกินกว่าที่เขาจะห้ามใจไว้ได้
ชายหนุ่มก็สารภาพว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงในฝันของเขาหรอก เรื่องราวของอดัมกับอีฟในโลกปัจจุบันดำเนินไปอย่างราบเรียบ ทั้งเขาและเธอไม่มีแม้แต่ชื่อ ทุกครั้งที่หลับนอนด้วยกันเมื่อมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น หญิงสาวก็ต้องไปจากชายหนุ่มทุกครั้ง และในวันที่เขาเห็นเธอท่าทางจริงจังกับผู้ชายอีกคน คอยเอาอกเอาใจ เขาสงสัยผู้ชายคนนั้นเป็นใคร แล้วในวันที่หญิงสาวกลับบ้านมาพร้อมกับรอยฟกช้ำดำเขียวพร้อมกับคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเขา “ฉันคลั่งเขาเอามากๆ ……….. รักฉันมากใช่มั๊ย หน้าโง่! สายตาของเธอทำให้ฉันคลื่นไส้ เธอไม่ใช่คนรักของฉัน” โอ๊ย! มันเจ็บนะคำพูดแบบนี้ เธอทำให้เขาเจ็บปวด ทั้งที่เธอไม่ใช่ผู้หญิงในฝันของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว แต่เพราะนานวันเข้า ความรักจึงยอมให้เธอเข้ามาอยู่ในหัวใจ ผู้หญิงในฝันเขาอาจจะหาไม่เจอ แต่ผู้หญิงที่เขารักก็อยู่กับเขาแล้ว
เสื้อผ้าของเขาและเธอใส่มีอยู่แค่ 3 สีเท่านั้นคือขาว เทา ดำ แม้เสื้อผ้าที่เธอใส่จะมีสีอื่นบ้างแต่ก็ต้องมี 1 ใน 3 สีนี้ประกอบ มันบ่งบอกถึงหมองหม่น ความทุกข์ที่ทั้งสองคนต้องแบกรับไว้ตลอดเวลา หญิงสาวมีทุกข์ที่คนที่เธอรักไม่สนใจและทำร้ายเธอ นักเขียนหนุ่มมีทุกข์เพราะหญิงสาวไม่ได้รักเขาเลย เธอให้เขาเพียงร่างกายแต่หัวใจให้คนอื่น
เมื่อเธอเจ็บ เขายิ่งเจ็บปวด ใครที่ทำร้ายเธอมันต้องชดใช้และเพื่อให้เขาและเธอหลุดพ้นจากความทุกข์ เขาจึงตัดสินใจทำบางอย่างที่คิดว่า อย่างน้อยก็คงไม่มีใครทำร้ายเธออีกต่อไป และเธอก็คงจะหันมารักเขาบ้าง แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นอย่างที่คิด หญิงสาวยังคงเฝ้ารอเสียงโทรศัพท์ เหม่อลอย จมอยู่กับความรักจากคนอื่น เขาอยากให้เธอหายจากความเจ็บปวดทั้งปวง จึงพาเธอไปที่พักผ่อนที่ทะเล เปลี่ยนบรรยากาศ เพื่อให้เธอลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้น หาดทรายขาวที่ว่างเปล่า ท้องทะเลที่กว้างใหญ่ มีแค่เขาและเธออยู่ด้วยกัน มันเหมือนกับว่าความรักที่ให้กันมันว่างเปล่า สิ่งที่เขามีให้เธอไม่มีความหมายใดๆ และเขาก็รู้ว่าไม่ว่าจะอย่างไร ในใจเธอมีคนอื่นตลอดเวลา ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจช่วยให้เธอหลุดพ้นจากความทุกข์อีกครั้ง แม้ว่าเขาจะต้องเจ็บปวดจากการตัดสินใจครั้งนี้ก็ตาม
ตอนท้ายของเรื่องภาพมาหยุดอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือและหน้าประตู เหมือนกับบอกว่านักเขียนหนุ่มกำลังรอหญิงสาวกลับมาหาเขาอีกครั้ง คงมีคนโทรมาตามเธอหรือเธออาจจะแค่ไปทำงาน อีกสักพักเธอคงจะกลับมา
ความรักแม้จะเป็นสิ่งที่สวยงามแต่เราก็ไม่ควรจะไปล้อเล่นกับมัน!
ในบทวิจารณ์นี้อาจมีเฉลยรายละเอียดของหนัง หากท่านต้องการจะหาหนังเรื่องนี้มาดู ก็อย่าอ่านเลยนะครับ เดี๋ยวเวลาไปจริงๆ รายละเอียดบางอย่างรู้ก่อนแล้ว จะทำให้อรรถรสในการดูลดน้อยลงไป

หลายครั้งที่ผมเลือกดูหนังที่ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนั้นมาก่อนจากชื่อเรื่องที่ตั้งเป็นภาษาไทย เช่น เติมรสชาติให้เต็มคน(Eat Drink Man Woman) ขอเพียง 5 วันให้ฉันรู้หัวใจเธอ(Fly me to Polaris) ฯลฯ และกับหนังเกาหลีเรื่องนี้ก็เช่นกัน La Belle เธอ เขา และรักเรา ทำให้เดาได้ว่าเรื่องนี้พอจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง
ความหมายของความรักคืออะไรล่ะ ความรักคือการให้ ความรักคือต้นไม้ที่จะเจริญงอกงามเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับการเอาใจใส่ดูแลของคนที่ปลูก ไม่ว่าใครจะนิยามไว้ว่าอย่างไรก็ตาม แต่ทำไมคนที่ผิดหวังจากความรักจึงเลือกที่จะทำร้ายตัวเอง หรือทำร้ายคนที่ทิ้งไป มองดูแล้วเหมือนว่าความรักมีทั้งด้านที่มีความสุขและความทุกข์
เหมือนกับความรักของนักเขียนหนุ่ม ในคืนที่เขาเปิดประตูรับหญิงสาวแปลกหน้าเข้ามาในบ้าน นับตั้งแต่นั้นมาเธอก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขา สายตาของเธอทำให้เขาอ่อนไหว ท่าทางของเธอทำให้เขาสงสัย เรือนร่างของเธอสัมผัสของเธอมันยากเกินกว่าที่เขาจะห้ามใจไว้ได้
ชายหนุ่มก็สารภาพว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงในฝันของเขาหรอก เรื่องราวของอดัมกับอีฟในโลกปัจจุบันดำเนินไปอย่างราบเรียบ ทั้งเขาและเธอไม่มีแม้แต่ชื่อ ทุกครั้งที่หลับนอนด้วยกันเมื่อมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น หญิงสาวก็ต้องไปจากชายหนุ่มทุกครั้ง และในวันที่เขาเห็นเธอท่าทางจริงจังกับผู้ชายอีกคน คอยเอาอกเอาใจ เขาสงสัยผู้ชายคนนั้นเป็นใคร แล้วในวันที่หญิงสาวกลับบ้านมาพร้อมกับรอยฟกช้ำดำเขียวพร้อมกับคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเขา “ฉันคลั่งเขาเอามากๆ ……….. รักฉันมากใช่มั๊ย หน้าโง่! สายตาของเธอทำให้ฉันคลื่นไส้ เธอไม่ใช่คนรักของฉัน” โอ๊ย! มันเจ็บนะคำพูดแบบนี้ เธอทำให้เขาเจ็บปวด ทั้งที่เธอไม่ใช่ผู้หญิงในฝันของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว แต่เพราะนานวันเข้า ความรักจึงยอมให้เธอเข้ามาอยู่ในหัวใจ ผู้หญิงในฝันเขาอาจจะหาไม่เจอ แต่ผู้หญิงที่เขารักก็อยู่กับเขาแล้ว
เสื้อผ้าของเขาและเธอใส่มีอยู่แค่ 3 สีเท่านั้นคือขาว เทา ดำ แม้เสื้อผ้าที่เธอใส่จะมีสีอื่นบ้างแต่ก็ต้องมี 1 ใน 3 สีนี้ประกอบ มันบ่งบอกถึงหมองหม่น ความทุกข์ที่ทั้งสองคนต้องแบกรับไว้ตลอดเวลา หญิงสาวมีทุกข์ที่คนที่เธอรักไม่สนใจและทำร้ายเธอ นักเขียนหนุ่มมีทุกข์เพราะหญิงสาวไม่ได้รักเขาเลย เธอให้เขาเพียงร่างกายแต่หัวใจให้คนอื่น
เมื่อเธอเจ็บ เขายิ่งเจ็บปวด ใครที่ทำร้ายเธอมันต้องชดใช้และเพื่อให้เขาและเธอหลุดพ้นจากความทุกข์ เขาจึงตัดสินใจทำบางอย่างที่คิดว่า อย่างน้อยก็คงไม่มีใครทำร้ายเธออีกต่อไป และเธอก็คงจะหันมารักเขาบ้าง แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นอย่างที่คิด หญิงสาวยังคงเฝ้ารอเสียงโทรศัพท์ เหม่อลอย จมอยู่กับความรักจากคนอื่น เขาอยากให้เธอหายจากความเจ็บปวดทั้งปวง จึงพาเธอไปที่พักผ่อนที่ทะเล เปลี่ยนบรรยากาศ เพื่อให้เธอลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้น หาดทรายขาวที่ว่างเปล่า ท้องทะเลที่กว้างใหญ่ มีแค่เขาและเธออยู่ด้วยกัน มันเหมือนกับว่าความรักที่ให้กันมันว่างเปล่า สิ่งที่เขามีให้เธอไม่มีความหมายใดๆ และเขาก็รู้ว่าไม่ว่าจะอย่างไร ในใจเธอมีคนอื่นตลอดเวลา ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจช่วยให้เธอหลุดพ้นจากความทุกข์อีกครั้ง แม้ว่าเขาจะต้องเจ็บปวดจากการตัดสินใจครั้งนี้ก็ตาม
ตอนท้ายของเรื่องภาพมาหยุดอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือและหน้าประตู เหมือนกับบอกว่านักเขียนหนุ่มกำลังรอหญิงสาวกลับมาหาเขาอีกครั้ง คงมีคนโทรมาตามเธอหรือเธออาจจะแค่ไปทำงาน อีกสักพักเธอคงจะกลับมา
ความรักแม้จะเป็นสิ่งที่สวยงามแต่เราก็ไม่ควรจะไปล้อเล่นกับมัน!
Comments