เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อมกราคม 2550 เขียนโดย คุณตี๋ Flash Bangและได้รับการตีพิมพ์เรื่องเดียวกันนี้ลงคอลัมน์ Online for You นิตยสาร Weekly Online ฉบับที่ 199 ในหัวข้อ มหาเศรษฐีแห่งสยาม เขียนโดยคุณ Ethan B*************************เหนื่อยครับ ล้าสุดๆ ไปเลย ความเมื่อยและอ่อนล้าเข้าสิงทุกส่วนของร่างกายกันเลยทีเดียว แม้จะยืนไม่นานเท่าน้องๆ ร่วมทีมซึ่งมาด้วยกัน แต่สังขารเหมือนจะฟ้องว่าร่างกายผมไม่แข็งแรงมากพอจะทนต่อการยืนท่ามกลางอากาศร้อนและผู้คนที่เดินขวักไขว่พลุกพล่านไปมา วันเสาร์ที่ 27 มกราคม พวกเรายกทีมกันไปปักหลักที่บริเวณสยามสแควร์ ตรงสะพานทางลง BTS และเซ็นเตอร์พอยด์ มีทีมงานประมาณ 5-6 ชีวิต และน้องพริตตี้ SF Girls ยืนเรียกให้ผู้คนในละแวกนั้นที่เดินผ่านไปผ่านมาได้ซื้อดอกป๊อปปี้ที่พวกเราตั้งใจรับมาจากมูลนิธิทหารผ่านศึกเพื่อจำหน่ายหารายได้สมทบเพื่อพี่ๆ ทหารไทย ไปกันตั้งแต่ช่วง 10 โมงเช้า ถึงเวลา 5 โมงเย็นโดยประมาณ ในมือมีตะกร้าบรรจุดอกไม้จำลองกลีบเด่นด้วยสีแดง เกสรทำจากผ้าสีเขียว ซึ่งดูจากภายนอกเป็นของที่ระลึกซึ่งหาค่าใดๆ ไม่ได้ เป็นดั่งของตอบแทนสำหรับผู้มีใจบุญช่วยกันอุดหนุนเพื่อนำรายได้เข้ากองทุน เพียงดอกละ 10 บาท เท่านั้น แต่เบื้องหลังคือเงินที่จะมีส่วนช่วยทหารผ่านศึกที่ได้รับความเดือดร้อนจากการสู้รบจนทุพพลภาพไม่สามารถช่วยเหลือตนเองและครอบครัวได้ ซึ่งบ่อยครั้งพวกเขาเป็นเหมือนผู้ปิดทองหลังพระ ทำคุณประโยชน์ให้กับแผ่นดินเกิดโดยไม่ได้หวังสิ่งใดตอบแทน นอกจากรอยยิ้มและความสงบสุขของคนไทย
ตลอดทั้งวันได้มีผู้คนให้ความสนใจเข้ามาแวะเวียนพูดคุยกับพวกเรา อีกทั้งยังช่วยกันทำบุญกันมากมายจริงๆครับ ต้องขอขอบพระคุณสำหรับเงินทุกบาทที่ช่วยกันในครั้งนี้ด้วยครับ เพราะเงิน 10 บาท ที่ทุกท่านช่วยกันทำบุญอาจดูเล็กน้อย แต่เมื่อรวมกันเป็นปริมาณมาก จะกลายเป็นเงินที่มีส่วนช่วยเหลือเหล่าทหารผู้ยากไร้ ซึ่งเป็นผู้เสียสละและกล้าหาญในการออกสู้รบ เป็นรั้วแนวหน้าของชาติ นำมาซึ่งความสงบสุข มีหลายท่านทีเดียวครับ ที่หยิบยื่นสตางค์ให้พวกเราโดยไม่ต้องการดอกป๊อปปี้ตอบแทน ขอให้บุญกุศลได้นำพาท่านพบพานแต่ความสุข และสมหวังในทุกประการครับ พวกเราซึ้งใจมากๆ ครับ ตลอดทั้งวันพวกเราขายดอกป๊อปปี้ได้จำนวนเงินรวม 5,000 บาท! เกินคาดไปพอสมควรครับ เพราะในเบื้องต้นพวกเราคาดการณ์ว่าจะขายได้น้อยกว่านี้ สำหรับพวกเราแล้วความเหนื่อยล้านั้นหายเป็นปลิดทิ้งเมื่อได้นับจำนวนเงินทั้งหมดซึ่งจะนำไปช่วยเหลือเพื่อการกุศลในครั้งนี้
ในบรรดาจำนวนดอกป๊อปปี้ที่พวกเราขายได้ มีอยู่ 1 ดอก ครับ ที่พิเศษกว่าดอกอื่น พวกเรารู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก เมื่อมีชายวัยกลางคนผู้หนึ่งมายืนข้างๆ พวกเรา ไม่มีสำเนียงเสียงใดเปล่งออกจากปากของเค้า มือขวาของเค้ากำต้นกล้วยที่มีใบลานสานเป็นแมลงเสียบเต็มไปหมด หน้าตาดูอิดโรย เปรอะเปรื้อนไปด้วยคราบไคล ผมหยิกยาวฟูเต็มศีรษะ ในมือขวากำเงินเป็นแบงค์สีเขียวบ่งบอกมูลค่า 20 บาท ผมถูกสะกิดจากน้องๆ ทีมงานให้มองไปที่ชายผู้นั้น การทรงตัวของเขาเซไปมา ด้วยเพราะขาข้างหนึ่งของเค้าไม่สมประกอบต้องอาศัยไม้เท้ายันหลักให้ยืนปักหลักอยู่ได้อย่างมั่นคง มือข้างที่กำเงินยังคงโบกไปมาพร้อมชี้ตรงมาที่ดอกป๊อปปี้สีแดงซึ่งวางเรียงรายอยู่ในตะกร้า ใจหนึ่งพวกเราไม่กล้ารับเงินของเขา แต่ด้วยแววตาที่เป็นประกายสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่จะช่วยเหลือด้วยการซื้อดอกป๊อปปี้เพียง 1 ดอก หลังจากทอนเงินให้ ผมสังเกตเห็นรอยยิ้มของเขาที่พยายามบรรจงติดดอกไม้สีแดงอย่างตั้งใจ
ความประทับใจในส่วนลึกก้นบึ้งของหัวใจเปลี่ยนให้ผมมองเห็นชายคนนี้ในมุมมองใหม่ เขาไม่ได้เป็นเพียงแค่คนพิการที่หาเลี้ยงชีพด้วยการจำหน่ายใบลานสานเพียงตัวละ 20 บาท อีกทั้งเป็นใบ้พูดไม่ได้ ขาเสียไปหนึ่งข้าง ผมเห็นความยิ่งใหญ่ของน้ำใจ มองผ่านเข้าไปเห็นตัวตนที่แท้จริงของบุคคลที่ควรได้รับการยกย่องและชื่นชมจากใจจริงจากการแสดงออกที่อยากจะช่วยเหลือผู้อื่นแม้ตนเองจะยากลำบากเพียงใดก็ตาม "คุณค่า" ที่ชายผู้นี้ซ่อนมันไว้ภายในรูปลักษณ์ด้านนอกส่องประกายออกมาจากใจของพวกเราทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น
พวกเรายืนมองเค้าเดินกระเผลกจากไปได้ไม่นานนัก ก็ต้องประหลาดใจมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว กับการกระทำของชายคนเดิม เขาเดินไปหาหญิงชราอีกคนที่เดินร้องเพลงหาเลี้ยงชีพด้วยแววตาที่เกือบบอดสนิท จากนั้นบรรจงหยิบเงินที่เขาหามาได้อย่างยากลำบากจากการขายใบลานสานลงในกล่องของหญิงชราผู้นั้น เสียงเหรียญกระทบกับกล่องโลหะ อาจไม่ดังพอกับเสียงรถยนต์ในระแวกนั้น แต่มันดังก้องเข้ามาที่หูของพวกเรา ความช่วยเหลือเพื่อเพื่อนร่วมโลกได้เดินทางมาถึงจากน้ำมือของคนธรรมดาคนหนึ่ง ความยากลำบากสอนให้ทั้งเขาและพวกเราได้รู้ซึ้งถึงการ “มองเห็น” ซึ่งกันและกันในสังคม ให้พวกเราได้เรียนรู้ว่าอีกด้านหนึ่งของความโหดร้ายจากทุกสิ่งทุกอย่าง มีด้านสว่างที่ส่องมาถึงเสมอ เขาอยู่ในสถานะที่ยากลำบากทั้งความเป็นอยู่และกายใจ พวกเราที่ยืนอยู่และเดินผ่านไปเป็นปุถุชนที่สมประกอบ ซึ่งบ่อยครั้งละเลยที่จะหยิบยืนความช่วยเหลือให้แก่คนที่ด้อยโอกาสกว่า และคิดว่าเป็นวิบากกรรมที่พวกเขาได้ก่อร่างสร้างไว้แต่ชาติปางก่อน ใครที่อยู่ในสถานะที่ช่วยเหลือได้ หากไม่เป็นภาระจนเกินไป เงินเพียง 10-20 บาท สร้างโอกาส เพิ่มอนาคตให้กับคนที่ยังต้องการความช่วยเหลือเหล่านี้อยู่
ดอกป๊อปปี้ในวันนี้สร้างเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ให้กับพวกเรา ความช่วยเหลือนั้นไม่ได้มาจากเพียงกำลังเงินที่มีเหลือเฟือและใจที่เอื้อเฟื้ออยากเผื่อแผ่ แต่มากจากโอกาสที่เราเป็นผู้สร้างให้กับตัวเราเอง เรื่องเล็กน้อยนี้ดูยิ่งใหญ่ในใจของพวกเราเป็นอย่างมาก วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ผมนอนหลับอย่างมีความสุขครับ หัวใจพองโตอย่างบอกไม่ถูก ลืมแม้กระทั่งความเหนื่อยที่ร่างกายมันชอบฟ้องว่าไม่ไหวอยู่บ่อยครั้ง แต่วันนี้หายเป็นปลิดทิ้ง เมื่อได้เห็นคนที่ลำบากกว่าแสดงถึงพลังน้ำใจที่น่ายกย่องเช่นนี้ ที่โต๊ะทำงานของผมก็พลอยประดับไปด้วยใบลานเป็นรูปตั๊กแตนต้องลมไหวไปมา ยามผมท้อใจเรื่องใด หันไปมองเจ้าแมลงที่สร้างจากธรรมชาติตัวนี้ ก็เหมือนมีแรงได้ลุกขึ้นสู้ต่อไป
27 มกราคม 2550
ตี๋ Flash Bang
ตลอดทั้งวันได้มีผู้คนให้ความสนใจเข้ามาแวะเวียนพูดคุยกับพวกเรา อีกทั้งยังช่วยกันทำบุญกันมากมายจริงๆครับ ต้องขอขอบพระคุณสำหรับเงินทุกบาทที่ช่วยกันในครั้งนี้ด้วยครับ เพราะเงิน 10 บาท ที่ทุกท่านช่วยกันทำบุญอาจดูเล็กน้อย แต่เมื่อรวมกันเป็นปริมาณมาก จะกลายเป็นเงินที่มีส่วนช่วยเหลือเหล่าทหารผู้ยากไร้ ซึ่งเป็นผู้เสียสละและกล้าหาญในการออกสู้รบ เป็นรั้วแนวหน้าของชาติ นำมาซึ่งความสงบสุข มีหลายท่านทีเดียวครับ ที่หยิบยื่นสตางค์ให้พวกเราโดยไม่ต้องการดอกป๊อปปี้ตอบแทน ขอให้บุญกุศลได้นำพาท่านพบพานแต่ความสุข และสมหวังในทุกประการครับ พวกเราซึ้งใจมากๆ ครับ ตลอดทั้งวันพวกเราขายดอกป๊อปปี้ได้จำนวนเงินรวม 5,000 บาท! เกินคาดไปพอสมควรครับ เพราะในเบื้องต้นพวกเราคาดการณ์ว่าจะขายได้น้อยกว่านี้ สำหรับพวกเราแล้วความเหนื่อยล้านั้นหายเป็นปลิดทิ้งเมื่อได้นับจำนวนเงินทั้งหมดซึ่งจะนำไปช่วยเหลือเพื่อการกุศลในครั้งนี้
ในบรรดาจำนวนดอกป๊อปปี้ที่พวกเราขายได้ มีอยู่ 1 ดอก ครับ ที่พิเศษกว่าดอกอื่น พวกเรารู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก เมื่อมีชายวัยกลางคนผู้หนึ่งมายืนข้างๆ พวกเรา ไม่มีสำเนียงเสียงใดเปล่งออกจากปากของเค้า มือขวาของเค้ากำต้นกล้วยที่มีใบลานสานเป็นแมลงเสียบเต็มไปหมด หน้าตาดูอิดโรย เปรอะเปรื้อนไปด้วยคราบไคล ผมหยิกยาวฟูเต็มศีรษะ ในมือขวากำเงินเป็นแบงค์สีเขียวบ่งบอกมูลค่า 20 บาท ผมถูกสะกิดจากน้องๆ ทีมงานให้มองไปที่ชายผู้นั้น การทรงตัวของเขาเซไปมา ด้วยเพราะขาข้างหนึ่งของเค้าไม่สมประกอบต้องอาศัยไม้เท้ายันหลักให้ยืนปักหลักอยู่ได้อย่างมั่นคง มือข้างที่กำเงินยังคงโบกไปมาพร้อมชี้ตรงมาที่ดอกป๊อปปี้สีแดงซึ่งวางเรียงรายอยู่ในตะกร้า ใจหนึ่งพวกเราไม่กล้ารับเงินของเขา แต่ด้วยแววตาที่เป็นประกายสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่จะช่วยเหลือด้วยการซื้อดอกป๊อปปี้เพียง 1 ดอก หลังจากทอนเงินให้ ผมสังเกตเห็นรอยยิ้มของเขาที่พยายามบรรจงติดดอกไม้สีแดงอย่างตั้งใจ
ความประทับใจในส่วนลึกก้นบึ้งของหัวใจเปลี่ยนให้ผมมองเห็นชายคนนี้ในมุมมองใหม่ เขาไม่ได้เป็นเพียงแค่คนพิการที่หาเลี้ยงชีพด้วยการจำหน่ายใบลานสานเพียงตัวละ 20 บาท อีกทั้งเป็นใบ้พูดไม่ได้ ขาเสียไปหนึ่งข้าง ผมเห็นความยิ่งใหญ่ของน้ำใจ มองผ่านเข้าไปเห็นตัวตนที่แท้จริงของบุคคลที่ควรได้รับการยกย่องและชื่นชมจากใจจริงจากการแสดงออกที่อยากจะช่วยเหลือผู้อื่นแม้ตนเองจะยากลำบากเพียงใดก็ตาม "คุณค่า" ที่ชายผู้นี้ซ่อนมันไว้ภายในรูปลักษณ์ด้านนอกส่องประกายออกมาจากใจของพวกเราทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น
พวกเรายืนมองเค้าเดินกระเผลกจากไปได้ไม่นานนัก ก็ต้องประหลาดใจมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว กับการกระทำของชายคนเดิม เขาเดินไปหาหญิงชราอีกคนที่เดินร้องเพลงหาเลี้ยงชีพด้วยแววตาที่เกือบบอดสนิท จากนั้นบรรจงหยิบเงินที่เขาหามาได้อย่างยากลำบากจากการขายใบลานสานลงในกล่องของหญิงชราผู้นั้น เสียงเหรียญกระทบกับกล่องโลหะ อาจไม่ดังพอกับเสียงรถยนต์ในระแวกนั้น แต่มันดังก้องเข้ามาที่หูของพวกเรา ความช่วยเหลือเพื่อเพื่อนร่วมโลกได้เดินทางมาถึงจากน้ำมือของคนธรรมดาคนหนึ่ง ความยากลำบากสอนให้ทั้งเขาและพวกเราได้รู้ซึ้งถึงการ “มองเห็น” ซึ่งกันและกันในสังคม ให้พวกเราได้เรียนรู้ว่าอีกด้านหนึ่งของความโหดร้ายจากทุกสิ่งทุกอย่าง มีด้านสว่างที่ส่องมาถึงเสมอ เขาอยู่ในสถานะที่ยากลำบากทั้งความเป็นอยู่และกายใจ พวกเราที่ยืนอยู่และเดินผ่านไปเป็นปุถุชนที่สมประกอบ ซึ่งบ่อยครั้งละเลยที่จะหยิบยืนความช่วยเหลือให้แก่คนที่ด้อยโอกาสกว่า และคิดว่าเป็นวิบากกรรมที่พวกเขาได้ก่อร่างสร้างไว้แต่ชาติปางก่อน ใครที่อยู่ในสถานะที่ช่วยเหลือได้ หากไม่เป็นภาระจนเกินไป เงินเพียง 10-20 บาท สร้างโอกาส เพิ่มอนาคตให้กับคนที่ยังต้องการความช่วยเหลือเหล่านี้อยู่
ดอกป๊อปปี้ในวันนี้สร้างเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ให้กับพวกเรา ความช่วยเหลือนั้นไม่ได้มาจากเพียงกำลังเงินที่มีเหลือเฟือและใจที่เอื้อเฟื้ออยากเผื่อแผ่ แต่มากจากโอกาสที่เราเป็นผู้สร้างให้กับตัวเราเอง เรื่องเล็กน้อยนี้ดูยิ่งใหญ่ในใจของพวกเราเป็นอย่างมาก วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ผมนอนหลับอย่างมีความสุขครับ หัวใจพองโตอย่างบอกไม่ถูก ลืมแม้กระทั่งความเหนื่อยที่ร่างกายมันชอบฟ้องว่าไม่ไหวอยู่บ่อยครั้ง แต่วันนี้หายเป็นปลิดทิ้ง เมื่อได้เห็นคนที่ลำบากกว่าแสดงถึงพลังน้ำใจที่น่ายกย่องเช่นนี้ ที่โต๊ะทำงานของผมก็พลอยประดับไปด้วยใบลานเป็นรูปตั๊กแตนต้องลมไหวไปมา ยามผมท้อใจเรื่องใด หันไปมองเจ้าแมลงที่สร้างจากธรรมชาติตัวนี้ ก็เหมือนมีแรงได้ลุกขึ้นสู้ต่อไป
27 มกราคม 2550
ตี๋ Flash Bang
Comments