Posts

Showing posts from July, 2008

Sense of Humor!

Wife:                'What are you doing?' Husband :          Nothing. Wife :                'Nothing...?  You've been reading our marriage certificate for an hour.' Husband :         'I was looking for the expiry date.' ------------------------------ Wife : 'Do you want dinner?' Husband : 'Sure! What are my choices?' Wife : 'Yes or no.' ------------------------------- Wife: 'You always carry my photo in your wallet.  Why?' Hubby: 'When there is a problem, no matter how great, I look at your picture and the problem disappears.'  Wife: 'You see how miraculous and powerful I am for you?' Hubby: 'Yes! I see your picture and ask myself what other problem can there be greater than this one?'  ------...

หนังสือสวดมนต์

               ก่อนหน้านี้พี่ต้อย มีข่าวมาแจ้ง ขอเชิญทุกคนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมทำบุญพิมพ์หนังสือสวดมนต์ 10,000 เล่ม ซึ่งนอกจากจะได้อานิสงค์ต่างๆแล้ว ทุกเล่มยังมีส่วนทำบุญ 2 ส่วนด้วยคือ                1. ร่วมสร้างอุโบสถกลางน้ำ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์วิทยาลัย หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ                2. ร่วมช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์ วัดพระบาทน้ำพุ หลวงพ่ออลงกต                เราก็เลยร่วมทำบุญด้วย สั่งพิมพ์หนังสือไป 25 เล่ม ค่าใช้จ่าย 500 บาท (ร่วมสร้างอุโบสถ+วัดพระบาทน้ำพุ 200 บาท) แล้วไม่กี่วันที่ผ่านมาพี่ต้อยก็แจ้งยอดยอดอนุโมทนาบุญ พิมพ์หนังสือสวดมนต์ยอดรวมทั้งหมด 14,110 เล่ม จากเดิมมีส่วนทำบุญ 2 ส่วน ตอนนี้เพิ่มเป็น 3 ส่วน คือ สร้างศาลาปฏิบัติธรรม ที่สาลิกาสิกขาลัย ของแม่ชีศันสนีย์ ด้วย    ...

เจ้โวยวาย

            ร้านอาหารรอบๆออฟฟิศ จะมีอยู่ร้านนึงที่พวกเราชอบไปกินกัน ชื่อร้านอะไรไม่รู้หรอก แต่อาศัยเรียกชื่อจากบุคลิกของเจ้าของร้าน เจ้เพ็ญ เป็นเจ้าของร้าน เด็กเสิร์ฟ เด็กคิดตังค์ ฯลฯ เรียกว่าทำหลายอย่าง ยกเว้นทำกับข้าว บุคลิกที่เด่นชัด คือพูดจาโผงผาง เสียงดัง แต่ก็ไม่มีอะไรแอบแฝงในท่าทางแบบนั้น พวกเราทุกคนก็เลยพร้อมใจกันเรียกว่า เจ้โวยวาย ถ้าใครเคยดูหนังเรืองบุญชู ก็จะนึกออกเลย เพราะเจ้เพ็ญมีบุคลิกเหมือนกะเจ้าของร้านอาหารข้างมหาลัยพี่พวกบุญชูกับเพื่อนๆไปกินข้าวกัน นิยามบุคลิกประเภทนี้ว่า "โหด มัน ฮา"             รสชาติอาหารของร้านเจ้โวยวายนี่ก็ถือว่าอร่อยนะ ลูกค้ามาแน่นร้านประจำ เมื่อก่อนสมัยที่พี่ดุ๊กยังอยู่ ก็จะมีเรากะพี่ดุ๊กนี่แหล่ะ ที่ชอบแกล้งเจ้โวยวายเวลาไปสั่งข้าว พอพี่ดุ๊กลาออกไปก็เลยเหลือแค่เราคนเดียว ที่คอยแกล้งคอยแซวเจ้แก             เวลาลูกค้าคนอื่นๆมาเข้าร้าน ก็จะได้ยินเสียงเจ้แกตวาดมั่ง พูดดีมั่ง ...

One Litre of Tears ... น้ำตาหนึ่งลิตร

Image
         วันนี้อยู่บ้าน ก็เลยนั่งดูหนังอ่ะ เรื่อง one litre of tears จะพูดว่าหนังก็คงไม่ถูก จริงๆมันเป็นละครซีรี่ย์ของญี่ปุ่นอ่ะ แต่เวอร์ชันที่เราดูเป็นแบบตัดต่อเพื่อที่จะ write ลงแผ่น DVD หนึ่งแผ่นได้พอดี ความรู้สึกที่ได้จากการดูเรืองนี้คือ บีบหัวใจมาก ร้องไห้แทบทั้งเรื่องอ่ะ กะ หัวใจพองโต เพราะมีหลายๆฉาก หลายๆคำพูดที่มันซึ้งกันใจนะ กว่าจะดูจบได้ก็แย่เหมือนกัน ต้อง pause ไว้ก่อน แล้วกลับมาดูอีกทีจนจบ ก็สมกะชื่อเรื่องนะ ดูเรื่องนี้แล้วน้ำตาไหลเป็นลิตรเลยมั้งเนี่ย ขนาดดูจากแผ่นตัดต่อก็แทบแย่ ถ้าได้ดูแบบเต็มๆ 11 แผ่นเราคงแย่แน่เลย   ตัวอย่างหนัง     MV     MV   เห็นว่าตอนนี้จะมีสร้างภาคสองออกมาด้วย จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ     ข้อมูลเพิ่มเติมเกียวกับหนังเรื่องนี้ ที่มา : http://pugchato.wordpress.com/2007/02/10/1-litre-of-tears/ “กว่าที่ฉันจะยิ้มได้อย่างนี้ ฉันเสียน้ำตามาไม่น้อยกว่า 1 ลิตร” เป็นประโยคที่มาของชื่อ series จากญี่ปุ่น “1 litre of tears” ที่ไม่ทราบเ...