มะเร็งเต้านม...หมั่นตรวจตรา รีบรักษา มีโอกาสหาย

 

มะเร็งเต้านม...หมั่นตรวจตรา รีบรักษา มีโอกาสหาย

คุณผู้หญิงที่ไปรับการตรวจมะเร็งเต้านม บางคนอาจจะพบว่ามีก้อนเนื้อในเต้านม คุณอย่าเพิ่งกังวลใจมากไปจนกว่าจะทราบผลชิ้นเนื้อนั้น เพราะคุณอาจจะไม่ได้เป็นมะเร็งเต้านมเสมอไป เพราะส่วนใหญ่พบว่าเป็นเนื้องอกธรรมดาไม่มีอันตราย อย่างไรก็ตามการจะแน่ใจว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ต้องตรวจสอบด้วยวิธีเฉพาะเท่านั้นได้แก่ การตรวจด้วยวิธี Imaging method แบบนี้สามารถให้ผลได้ภายใน 24 ชั่วโมง หรืออีกวิธีหนึ่งคือการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ (tissue-biopsy) ต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์

หลายทศวรรษที่ผ่านมาบรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างพยายามที่จะไขปริศนาเกี่ยวกับกลไกการเกิดของโรคมะเร็ง จากการศึกษาวิจัยทำให้สามารถพบวิธีการตรวจและรักษามะเร็งเต้านมในระยะแรกเริ่มได้ ซึ่งมะเร็งเต้านมในระยะแรกนั้นหากวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องก็จะสามารถควบคุมหรือรักษาได้ และผู้ที่เป็นมะเร็งเต้านมก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างปกตินาน 10-15 ปี แต่ก็น่าเสียดายที่ยังไม่มีวัคซีนหรือยาใดๆ ที่สามารถป้องกันมะเร็งเต้านมได้ แม้ว่าเราจะทราบว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านมได้ คุณผู้หญิงทั้งหลายจึงควรดูแลตัวเองให้ดีที่สุด

องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่ามะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในผู้หญิง ในยุโรปผู้หญิง 16 คน เป็นมะเร็งเต้านม 1 คน ส่วนในสิงคโปร์มะเร็งเต้านมเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตที่พบบ่อยที่สุด เมื่อเทียบกับโรคมะเร็งชนิดอื่น ขณะที่ในฟิลิปปินส์ มีรายงานว่าผู้หญิงประมาณ 30 คน จากทั้งหมด 100,000 คน เป็นมะเร็งเต้านม ส่วนรายงานการเกิดมะเร็งเต้านมในหญิงตั้งครรภ์หรือผู้ชายพบได้น้อยมาก

ลักษณะของเต้านมปกติ
เต้านมเป็นอวัยวะที่เต็มไปด้วยต่อมและเนื้อเยื่อไขมันมากมายระหว่างชั้นของผิวหนังและผนังช่องอก ซึ่งเนื้อเยื่อไขมันนี่เองที่เป็นตัวกำหนดขนาดและรูปร่างของทรวงอก เมื่อคุณมีลูก ต่อมดังกล่าวจะผลิตน้ำนมส่งผ่านท่อน้ำนม ไปยังหัวนม ดังนั้นช่วงที่ให้นมลูก ต่อมน้ำนมและท่อต่างๆ จะมีขนาดใหญ่ขึ้น

เต้านมยังประกอบด้วยเส้นเลือดและน้ำเหลือง โดยน้ำเหลืองจะนำของเสียที่เต้านมขับออกไปยังเนื้อเยื่อขนาดเล็กเท่าเม็ดถั่วที่เรียกว่าต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ ซึ่งต่อมน้ำเหลืองจะทำหน้าที่กรองและทำความสะอาดน้ำเหลือง

มะเร็งเต้านั้นเป็นอย่างไร ?
มะเร็งเต้านมเกิดขึ้นเมื่อเซลล์ของเต้านมมีการแบ่งตัวโดยไม่สามารถควบคุมได้ มีการเบียดบังเนื้อเยื่อข้างเคียงและแพร่ขยายไปทั่วร่างกาย โดยเซลล์มะเร็งจะเพิ่มจำนวนและแบ่งตัวได้ด้วยตนเอง มันจะแย่งสารอาหารจากเซลล์ปกติ และเข้าไปแทนที่เซลล์ปกติของเต้านม หากปล่อยไว้เซลล์ปกติเหล่านี้จะไม่สามารถเติบโตได้ แต่อย่างไรก็ตามกระบวนการนี้ต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปี ซึ่งการตรวจแมมโมแกรม (การเอกซเรย์เต้านม) บางครั้งอาจช่วยทำให้ตรวจพบโรคก่อนที่จะรู้สึกหรือเห็นการเปลี่ยนแปลงได้

คุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมไหม?

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านมต่อไปนี้สามารถแก้ไขได้ เช่น

  • ใช้ฮอร์โมนทดแทนในการรักษาภายหลังวัยหมดประจำเดือน
  • ใช้ยาคุมกำเนิดแบบรับประทาน (OCPs) เป็นระยะเวลานาน
  • ไม่เคยให้นมบุตร
  • ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2-5 แก้วต่อวัน
  • มีน้ำหนักตัวมากเกินไป (โดยเฉพาะวัยหมดประจำเดือน)
  • ขาดการออกกำลังกาย
  • รับประทานอาหารพวกไขมันมากเกินไป

การใช้ฮอร์โมนทดแทนหรือยาคุมกำเนิดแบบรับประทานอาจมีความจำเป็นแม้ว่าจะมีความเสี่ยง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างยาคุมกำเนิดแบบรับประทานกับมะเร็งเต้านมยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ว่ามีทางเลือกอื่นๆ บ้างหรือไม่

ปัจจัยเสี่ยงที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ได้แก่

  • เป็นผู้หญิง
  • อายุ(ความเสี่ยงมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น)
  • มีประจำเดือนครั้งแรกก่อนอายุ 12 ปี
  • หมดประจำเดือนหลังอายุ 50 ปี
  • การที่ไม่เคยมีบุตร
  • มีบุตรภายหลังอายุ 30 ปี
  • มีแม่ พี่น้อง หรือลูกสาวเคยเป็นมะเร็งเต้านม
  • เคยตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านมหรือเต้านมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ในภาวะก่อนเป็นมะเร็งเต้านม
  • มีความผิดปกติของยีนส์ที่ได้รับการถ่ายทอดพันธุกรรมมาจากพ่อแม่
  • เคยมีประวัติเป็นมะเร็งมดลูกและมะเร็งลำไส้ใหญ่ (รวมถึงประวัติในครอบครัวเคยมีคนเป็นด้วย)

การตรวจเต้านมด้วยตัวเองเป็นประจำ และเมื่อพบความผิดปกติใดๆ ควรรีบไปรับการตรวจเบื้องต้น หรือตรวจร่างกายกับแพทย์เป็นระยะ ในช่วงที่เหมาะสมกับวัยและประวัติความเสี่ยง จะช่วยให้ตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะแรก

ควรเริ่มตรวจเต้านมเมื่อใด?

สมาคมมะเร็งวิทยาในประเทศอเมริกาแนะนำว่า

  • อายุระหว่าง 20-39 ปี ควรมีการตรวจเต้านมด้วยตนเองเดือนละครั้ง ในช่วง 1 สัปดาห์ หลังจากหมดประจำเดือนในแต่ละเดือน
  • อายุระหว่าง 20-39 ปี ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเต้านมทุกๆ 3 ปี หรือทุกปีหากต้องมีการตรวจมะเร็งปากมดลูก (Pap smear)
  • อายุ 40 ปีขึ้นไป ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเต้านมและตรวจแมมโมแกรม เป็นประจำทุกปี หรือตามคำแนะนำของแพทย์ สำหรับผู้หญิงที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม ควรเริ่มตรวจแมมโมแกรมตั้งแต่อายุ 35 ปี

ตรวจเต้านมด้วยตนเองอย่างไร?
ถ้าคุณมีประจำเดือนมาเป็นปกติทุกเดือน ควรตรวจเต้านมด้วยตนเองหลังจากหมดประจำเดือนในแต่ละเดือน ภายใน 1 สัปดาห์ แต่ถ้าอยู่ในวัยหมดประจำเดือน ให้ตรวจในวันแรกของทุกเดือน ส่วนผู้ที่รับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด ให้ตรวจในวันแรกที่เริ่มรับประทานยาแผงใหม่

การตรวจเต้านมควรทำระหว่างอาบน้ำในตอนเช้า เพราะก้อนเนื้อจะถูกตรวจพบได้ง่ายหากมือและเต้านมยังเปียกอยู่ โดยใช้ฝ่ามือ 3 นิ้ว (ไม่ใช่ปลายนิ้ว) ของนิ้วชี้ นิ้วกลางและนิ้วนาง คลำขึ้นลงหรือเป็นวงกลม ให้ทั่วทั้งเต้านม รักแร้ และตรวจหัวนมว่ามีของเหลวไหลออกมาหรือไม่

จากนั้นให้ตรวจเต้านมขณะยืนหรือนั่งหน้ากระจก ตรวจทั้งในขณะที่ยกแขนขึ้นและแนบข้างลำตัว มองดูการเปลี่ยนแปลงในขนาดและรูปร่าง ดูรอยบุ๋มและความผิดปกติของหัวนม ต่อจากนั้นให้ตรวจเต้านมขณะที่นอนหงายกับพื้น วางหมอนใบเล็กๆ หรือผ้าเช็ดตัวหนุนไหล่ข้างที่จะตรวจ ใช้มือขวาตรวจเต้านมข้างซ้าย และใช้มือซ้ายตรวจเต้านมข้างขวา ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการตรวจเต้านมด้วยตนเองควรปรึกษาแพทย์

Comments

Popular posts from this blog

Bungee Jumping of Their Own - หากเกิดใหม่เป็นผู้ชายเหมือนเธอ จะรักฉันหรือเปล่า

One Litre of Tears ... น้ำตาหนึ่งลิตร

La Belle - เธอไม่รักฉันเลย